top of page
Drums on Sand

กลองวิเศษ

นิทานอาฟริกัน

หัวหน้าเผ่าคนหนึ่งมีเมีย ๕๐ คน  มีลูกชายหญิงจำนวนมาก  และมีบริวารอีกนับร้อย  ทุกคนอยู่กันอย่างสุขสบาย เพราะหัวหน้าเผ่ามีความยุติธรรม และมีเมตตา

 

หัวหน้าเผ่ามีกลองวิเศษที่เมื่อตีแล้ว จะมีอาหารโอชารสวางอยู่บนโต๊ะ เลี้ยงทุกคนให้อิ่มหนำสำราญ  แม้ข้าศึกก็ทิ้งหอกทิ้งอาวุธมานั่งกินอาหารด้วยกัน  ลืมเรื่องทะเลาะเบาะแว้งที่ตั้งใจมารบราฆ่าฟัน

 

ไม่เพียงแต่มนุษย์  บรรดาสัตว์ทั้งหลาย ก็ยังได้กินอาหารจากกลองของหัวหน้ากันถ้วนหน้า

 

ความลับของกลองใบนี้ก็คือ  เมื่อเจ้าของตี มันจะให้อาหารทุกครั้ง  แต่ถ้าเจ้าของเกิดไปเดินข้ามกิ่งไม้หรือท่อนไม้  เมื่อตีกลอง  จะกลายเป็นนักรบสามร้อยคนปรี่เข้ามาหวดด้วยแส้

 

วันหนึ่ง เต่าแกล้งยื่นลูกปาล์มให้ลูกสาวหัวหน้าเผ่ากิน  แล้วมาฟ้องหัวหน้าเผ่าว่า ตัวเองถูกขโมยอาหาร  ขอให้ชดใช้ด้วยกลองวิเศษ

 

เมื่อได้กลองวิเศษไป  เต่าก็สามารถเลี้ยงครอบครัวให้สุขสบายโดยไม่ต้องทำงาน  และอยากให้คนอื่นรู้ถึงความร่ำรวยของตน  จึงเชื้อเชิญผู้คนมากินเลี้ยง  และตัวเองก็ได้รับเชิญไปตามบ้านของคนร่ำรวย  จนวันหนึ่ง เดินข้ามกิ่งไม้ระหว่างทางกลับบ้านโดยไม่รู้ตัว

 

วันรุ่งขึ้น  ลูกเมียของเต่าร้องขออาหาร  ทันทีที่เต่าตีกลอง  นักรบสามร้อยคนก็กรูกันออกมาทำร้ายเต่าและครอบครัวจนบอบช้ำไปหมด

 

เต่าเชิญแขกมามากมายในวันต่อมา เพื่อให้คนเหล่านั้นต้องเจอเหตุการณ์แบบเดียวกับตน  โดยสั่งให้ลูกเมียไปซ่อนตัวอยู่ในป่า  จากนั้นก็ตีกลองอย่างแรง พร้อมกับไปซ่อนตัวอยู่ใต้เก้าอี้  จนกระทั่งแขกถูกตีสะบักสะบอมหนีกลับบ้านไป

 

จากนั้น เต่าเอากลองไปคืนหัวหน้าเผ่า และขอเปลี่ยนเอาอย่างอื่นมาแทน  หัวหน้าเผ่าให้ต้นไม้วิเศษที่จะขออาหารได้วันละครั้ง  ถ้ามีใครขอเกินกว่านั้น  ต้นไม้จะเหี่ยวตายทันที

 

เต่ากลับบ้าน แล้วจัดการเอาต้นไม้วิเศษไปซ่อนในป่า  ถึงเวลาก็ให้เมียเอากะลาสิบใบไปรองอาหารกลับมากินกันที่บ้าน

 

ลูกๆของเต่าอยากได้อาหารเพิ่ม  แต่พ่อไม่ยอมให้  จึงพากันวางแผนสะกดรอยจนไปเจอต้นไม้วิเศษ  และแอบไปขออาหารจากต้นไม้มากินโดยพ่อเต่าไม่รู้

 

วันรุ่งขึ้น  เมื่อพ่อเต่าไปที่ต้นไม้  ก็พบว่าต้นไม้เหี่ยวตายไปแล้ว  จึงกลับบ้านและเรียกลูกเมียมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง  ลูกๆพยายามโยนความผิดไปให้คนอื่นจนทำให้เต่ารู้ว่า ใครทำต้นไม้ตาย

 

พ่อเต่าพาลูกไปอาศัยอยู่ใต้ต้นปาล์ม และบอกว่าให้หาลูกปาล์มกินกันเองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

bottom of page