เมื่อพูดถึงคำว่า “แฟนตาซี” ในปัจจุบันแล้ว อาจทำให้หลายคนคิดถึงแนวของภาพยนตร์ เกม การ์ตูน อะนิเมะ ที่จะเน้นในเรื่องของความเหนือธรรมชาติ เรื่องที่ถูกสร้างขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องอิงจากหลักความเป็นจริงใด ๆ ความอิสระของไอเดีย จินตนาการของคนสร้าง โลกนวนิยาย โลกเวทมนต์ สิ่งต่าง ๆ อันไม่เคยมีบนโลก ซึ่งทั้งหมดล้วนไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวใด ๆ ซึ่งเราทุกคนคงเคยได้สัมผัสความแฟนตาซีในประสบการณ์ที่เคยพบเจอมาแล้วของแต่ละคน ในช่วงเวลาต่างๆ ของชีวิต

ด้วยความเป็นอิสระของคำว่าแฟนตาซี คอนเสิร์ตนี้จึงเป็นการนำเสนอเรื่องราวของแฟนตาซีที่เป็นบทเพลงคลาสสิกและบทเพลงต่างๆ ที่ตีความในรูปแบบของผู้แสดง ซึ่งจะนำผู้ชมเข้าไปสัมผัสสู่โลกแฟนตาซีที่เกิดจากการรวมกันของโลกความเป็นจริง โลกความทรงจำในอดีต และโลกความฝันหรือจินตนาการ ผ่านบทเพลงที่บรรเลง เสียงบันทึก รูปภาพ อย่างเป็นลำดับต่อเนื่องให้เสมือนรวมกันเป็นโลกเดียว 

ความทรงจำ เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตและหวนย้อนกลับคืนมา อาจจะมาแค่บางส่วนก็ตาม ซึ่งในการแสดงครั้งนี้จะนำเสนอผ่านเสียงเปียโนที่บันทึกไว้ ให้ความรู้สึกที่นึกย้อนกลับไปในอดีต สำหรับความรู้สึกตัว ก็คือความเป็นปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้น การอยู่ในสภาวะความเป็นจริง ที่นำเสนอผ่านบทเพลงคลาสสิกหลักที่บรรเลงดำเนินไปเรื่อย ๆ ในส่วนสุดท้ายซึ่งก็คือความฝัน จินตนาการ ที่แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น หรืออยู่ในสภาวะที่ไม่มีอยู่จริง ก็สามารถทำให้รู้สึกได้ผ่านการตีความบทเพลงที่มีอยู่แล้ว แต่สร้างให้เกิดการทับซ้อนกับสภาวะแห่งความเป็นจริง เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เกิดจากการผสมผสานกันของอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

และทั้งหมดที่สร้างขึ้นมาก็คือ แฟนตาซี ในแบบของผม